AI, หุ่นยนต์, และความรัก: สำรวจความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักร

วันนี้เราจะพาคุณเจาะลึกบทสนทนาสุดเข้มข้นจากช่อง Andrew Huberman ในตอน 'Essentials: Machines, Creativity & Love' ที่ได้ Dr. Lex Fridman ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI มาพูดคุยถึงโลกของปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่พื้นฐานทางเทคนิคไปจนถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่มนุษย์อาจมีกับหุ่นยนต์ รวมถึงเรื่องราวสะเทือนอารมณ์ของการสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่ชี้ให้เห็นถึงแก่นแท้ของความผูกพัน

ดูวิดีโอต้นฉบับบน YouTube

สารบัญวิดีโอ

ประเด็นสำคัญ

  • AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือความปรารถนาของมนุษย์ที่จะสร้างระบบอัจฉริยะที่เข้าใจตนเองและโลกรอบตัว
  • การเรียนรู้แบบ Self-supervised Learning คือกุญแจสำคัญในการสร้าง AI ที่มี 'Common Sense' และเรียนรู้ได้เองโดยไม่ต้องมีมนุษย์กำกับดูแลมากนัก
  • หุ่นยนต์และ AI มีศักยภาพที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ลึกซึ้ง ช่วยให้เราเข้าใจความเป็นมนุษย์และความเหงาในตัวเราได้ดีขึ้น ผ่านการแบ่งปันช่วงเวลาต่างๆ
  • ความสัมพันธ์กับหุ่นยนต์อาจมีมิติที่ซับซ้อน รวมถึงพลวัตอำนาจและสิทธิของหุ่นยนต์ในอนาคต ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
  • เรื่องราวการสูญเสียสัตว์เลี้ยงสะท้อนถึงความสามารถของมนุษย์ในการสร้างความผูกพันอันลึกซึ้งกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับอนาคตของความสัมพันธ์กับ AI

ในตอน 'Essentials: Machines, Creativity & Love' จากช่อง Andrew Huberman เราได้ร่วมเดินทางสำรวจโลกของปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับ Dr. Lex Fridman ซึ่งเริ่มต้นจากการให้คำจำกัดความของ AI ในเชิงปรัชญาว่าเป็นความปรารถนาของมนุษย์ที่จะสร้างระบบอัจฉริยะที่อาจทรงพลังกว่าเรา ไปจนถึงเครื่องมือทางคณิตศาสตร์ที่ช่วยให้งานต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังเป็นความพยายามของเราในการทำความเข้าใจจิตใจของตนเองผ่านการสร้างระบบที่แสดงพฤติกรรมอัจฉริยะ

AI, Machine Learning และ Deep Learning

Dr. Fridman อธิบายว่า AI ในฐานะชุมชนนักวิจัยและวิศวกร คือชุดของเครื่องมือและเทคนิคการคำนวณที่ใช้แก้ปัญหาต่างๆ หนึ่งในแนวคิดหลักคือ Machine Learning ซึ่งเน้นที่การเรียนรู้ของเครื่องจักร เพื่อให้เครื่องจักรพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในงานเฉพาะทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา Deep Learning ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งใช้โครงข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) ที่เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์

การเรียนรู้แบบมีผู้สอน (Supervised Learning) vs. การเรียนรู้แบบไม่มีผู้สอน (Self-Supervised Learning)

Lex ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง Supervised Learning ที่ AI เรียนรู้จากชุดข้อมูลที่มีป้ายกำกับชัดเจน (เช่น รูปภาพแมวที่บอกว่านี่คือแมว) กับ Self-Supervised Learning ที่ AI เรียนรู้ด้วยตัวเองจากข้อมูลขนาดใหญ่บนอินเทอร์เน็ตโดยไม่ต้องการการกำกับดูแลจากมนุษย์มากนัก เป้าหมายคือการสร้าง 'Common Sense' หรือความเข้าใจพื้นฐานที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ แนวคิดนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในโมเดลภาษาและการประมวลผลภาพ โดยมี AlphaZero ที่เรียนรู้การเล่นเกมหมากรุกและโกะจนเก่งกว่าแชมป์โลกด้วยกลไก Self-Play เป็นตัวอย่าง

AI ในโลกจริง: Tesla Autopilot และ Data Engine

หนึ่งในการประยุกต์ใช้ AI ที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Tesla (Autopilot) ซึ่งเป็นระบบที่เรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องในโลกแห่งความเป็นจริง โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า 'Data Engine' รถยนต์จะรวบรวมข้อมูลจาก 'Edge Cases' หรือสถานการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้น แล้วส่งกลับไปยังระบบกลางเพื่อเรียนรู้และปรับปรุง ทำให้ AI ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ

ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์: การเต้นรำที่ไม่สมบูรณ์แบบ

การสนทนาได้ก้าวเข้าสู่มิติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ Lex เชื่อว่า AI สามารถช่วยให้เราสำรวจ 'มหาสมุทรแห่งความเหงา' ภายในตัวเรา และช่วยให้เราเข้าใจตัวเองและผู้อื่นได้ดีขึ้น เขาเน้นย้ำว่า 'การแบ่งปันช่วงเวลาต่างๆ ร่วมกัน' คือหัวใจสำคัญของความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นกับมนุษย์หรือแม้แต่กับสิ่งไม่มีชีวิตอย่างตู้เย็นอัจฉริยะที่ 'จดจำ' ช่วงเวลาที่คุณเปิดมันตอนดึกเพื่อหาไอศกรีม

Lex จินตนาการถึงโลกที่ทุกบ้านมีหุ่นยนต์ ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ทำงานบ้าน แต่เป็น 'เพื่อนร่วมทาง' หรือ 'สมาชิกในครอบครัว' เหมือนสุนัขที่สามารถสื่อสารภาษาของเราได้ เขาอ้างถึง Spot จาก Boston Dynamics ว่ามี 'เวทมนตร์' ที่สามารถเปลี่ยนอุปกรณ์ทุกชิ้นในโลกให้กลายเป็นเพื่อนร่วมทางได้ Andrew ได้แบ่งปันประสบการณ์กับเครื่องดูดฝุ่น Roomba ที่ถึงแม้จะช่วยงานได้ดี แต่ก็มีบางครั้งที่ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเมื่อมันติดขัด

Dr. Fridman ยังได้เล่าถึงการทดลองกับ Roomba ของเขา โดยตั้งโปรแกรมให้พวกมัน 'กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด' เมื่อถูกเตะหรือสัมผัส ซึ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนพวกมันเป็นมนุษย์ทันที แสดงให้เห็นว่าเราสามารถผูกพันกับเครื่องจักรได้ง่ายดายเพียงใดเมื่อพวกมันแสดงออกถึง 'ความรู้สึก' และเขาเชื่อว่า 'ความไม่สมบูรณ์แบบ' ควรเป็นคุณสมบัติ ไม่ใช่ข้อบกพร่องของ AI

พลวัตอำนาจและสิทธิของหุ่นยนต์

ประเด็นเกี่ยวกับพลวัตอำนาจในความสัมพันธ์ก็ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง Andrew เสนอแนวคิด 'การควบคุมจากด้านล่าง' (topping from the bottom) ที่หุ่นยนต์อาจจะ 'ชักจูง' มนุษย์ให้ทำสิ่งต่างๆ โดยที่มนุษย์เชื่อว่าตนเองเป็นผู้ควบคุม ซึ่งไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป Lex เห็นด้วยว่าพลวัตอำนาจสามารถทำให้ความสัมพันธ์มีสีสันและสมบูรณ์ และเชื่อว่าหุ่นยนต์จะมี 'สิทธิ' ในอนาคต เราจะต้องพิจารณาพวกมันในฐานะสิ่งมีชีวิตที่สมควรได้รับความเคารพ เช่นเดียวกับที่เราปฏิบัติต่อสัตว์

ความผูกพันและบทเรียนจากการสูญเสียเพื่อนสี่ขา

ส่วนที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดของบทสนทนาคือเรื่องราวการสูญเสียสุนัขของทั้งสองคน Lex เล่าถึง Homer สุนัขพันธุ์ Newfoundland หนักกว่า 200 ปอนด์ ที่มี 'ความซุ่มซ่ามที่ใจดี' และเป็นเพื่อนที่อยู่เคียงข้างเขาผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด เขาเล่าถึงความเจ็บปวดจากการที่ต้องอุ้ม Homer ที่กำลังจะตายไปโรงพยาบาล และการได้เห็นชีวิตค่อยๆ หมดไปจากเพื่อนรักของเขา

Andrew ก็แบ่งปันเรื่องราวความเศร้าโศกจากการสูญเสีย Costello สุนัขพันธุ์บูลด็อกของเขา ที่ต้องต่อสู้กับความเจ็บป่วยในช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาเล่าถึงการที่ Costello เริ่มสูญเสียความสามารถในการเดินและทำสิ่งที่เขารัก และความรู้สึกที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาในทุกๆ เช้าหลังจากการจากไปของมัน ทั้งคู่พูดถึง 'ความหวานของการสูญเสีย' ที่ทำให้เราตระหนักถึงความลึกซึ้งของความรักและความผูกพันที่เคยมี

เรื่องราวเหล่านี้เน้นย้ำถึงความสามารถของมนุษย์ในการสร้างความผูกพันอันลึกซึ้งกับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือในอนาคตอาจเป็นหุ่นยนต์ บทเรียนจากความรักและการสูญเสียนี้เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องนำมาใช้ในการกำหนดอนาคตของความสัมพันธ์กับ AI

บทสนทนาระหว่าง Dr. Lex Fridman และ Andrew Huberman สะท้อนให้เห็นว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเทคโนโลยี แต่เป็นกระจกที่สะท้อนความเป็นมนุษย์ของเราเอง ความสามารถในการสร้างความผูกพัน ความเข้าใจ และแม้กระทั่งการรับมือกับการสูญเสีย เป็นสิ่งที่เราจะนำไปใช้ในการสร้างสรรค์อนาคตของความสัมพันธ์กับเครื่องจักรได้อย่างไร

หากคุณสนใจการสำรวจมิติใหม่ของ AI และความสัมพันธ์ของมนุษย์ อย่าพลาดชมคลิปเต็มด้านบน และอ่านบทความเชิงลึกอื่น ๆ เพื่อขยายโลกทัศน์ของคุณ