ประเด็นสำคัญ
- Prenup ไม่ใช่เรื่องของความไม่ไว้วางใจ แต่เป็นเครื่องมือในการสร้างความปลอดภัย ความชัดเจน และความผูกพันทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งขึ้นในความสัมพันธ์
- ผู้ที่ทำ Prenup มีแนวโน้มที่จะหย่าร้างน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากพวกเขากล้าที่จะพูดคุยเรื่องยากๆ เกี่ยวกับความกลัว ความหวัง และความคาดหวังตั้งแต่ต้น
- การแต่งงานเป็นทั้ง 'เศรษฐกิจ' และ 'สัญญา' ที่มักถูกมองข้าม การทำความเข้าใจ 'คุณค่า' ที่แต่ละฝ่ายนำมาสู่ความสัมพันธ์ช่วยให้รักษาสิ่งที่ดีที่สุดไว้ได้
- ความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนต้องการการสื่อสารที่ซื่อสัตย์ การยอมรับความเปราะบาง และการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เหมือนการดูแลรักษาสิ่งมีค่าอื่นๆ
- สื่อสังคมออนไลน์และภาพยนตร์โรแมนติกมักสร้างภาพความรักที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งนำไปสู่ความคาดหวังที่ไม่สมจริง การยอมรับความไม่สมบูรณ์ของมนุษย์คือรากฐานของความรักที่แท้จริง
ในโลกที่ความรักมักถูกห่อหุ้มด้วยภาพฝันและอุดมคติ Andrew Huberman ได้เชิญ James Sexton ทนายความผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายครอบครัวที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี มาเผยอีกด้านหนึ่งของความสัมพันธ์ที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ 'สัญญาแห่งความรักและเงินตรา' ที่สามารถสร้างหรือทำลายความสัมพันธ์ได้ James Sexton ได้นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจว่า สัญญาพรีนัป (Prenuptial Agreement) ซึ่งมักถูกมองว่าไม่โรแมนติกหรือเป็นลางร้าย แท้จริงแล้วสามารถเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความผูกพันทางอารมณ์และความไว้วางใจระหว่างคู่รักได้อย่างลึกซึ้ง
ทุกคนมี Prenup อยู่แล้ว
James Sexton ชี้ให้เห็นว่า ไม่ว่าคุณจะทำสัญญาพรีนัปหรือไม่ ทุกคนก็มี 'พรีนัป' เป็นของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่คุณอาจไม่รู้ตัว นั่นคือ 'กฎหมายของรัฐ' ที่จะเข้ามาจัดการทรัพย์สินและเงื่อนไขต่างๆ หากเกิดการหย่าร้าง หากเป็นเช่นนั้น ทำไมไม่สร้างสัญญาที่ออกแบบมาเพื่อความต้องการเฉพาะของคุณและคู่รักด้วยตัวคุณเองล่ะ? การสร้างพรีนัปคือโอกาสในการกำหนด 'กฎเกณฑ์' ของความสัมพันธ์ร่วมกัน ในช่วงเวลาที่ทั้งสองฝ่ายยังเต็มไปด้วยความรัก ความหวัง และความปรารถนาดีต่อกัน
Prenup ไม่ใช่สัญญาณของความไม่ไว้วางใจ แต่คือความปลอดภัย
มุมมองที่น่าประหลาดใจคือ Sexton พบว่าคู่รักที่ทำสัญญาพรีนัปมีอัตราการหย่าร้างที่ต่ำมาก เขาจัดการคดีพรีนัปมาหลายร้อย หากไม่ใช่หลายพันคดีตลอด 25 ปี แต่มีเพียงประมาณ 5 คู่เท่านั้นที่หย่าร้างในภายหลัง นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการที่คู่รักเหล่านั้นกล้าที่จะพูดคุยเรื่องยากๆ ตั้งแต่ต้นเกี่ยวกับความกลัว ความหวัง สิ่งที่แต่ละฝ่ายนำมาสู่ความสัมพันธ์ และสิ่งที่คาดหวังจากกันและกัน การพูดคุยเหล่านี้สร้างความรู้สึกปลอดภัยทางอารมณ์และเป็นรากฐานของความสนิทสนมที่แท้จริง
ความสัมพันธ์คือ 'เศรษฐกิจ' และ 'สัญญา'
Sexton อธิบายว่า การแต่งงานเป็นทั้ง 'เศรษฐกิจ' (การแลกเปลี่ยนคุณค่า) และ 'สัญญา' ที่มักถูกมองข้ามไปในห้วงแห่งความรัก การทำความเข้าใจว่าแต่ละฝ่ายนำคุณค่าอะไรมาสู่ชีวิตของกันและกัน และจะรักษาสิ่งเหล่านั้นไว้อย่างไร คือสิ่งสำคัญ การพูดคุยเรื่องเงิน ความคาดหวังทางเพศ หรือแม้แต่การดูแลสัตว์เลี้ยงในพรีนัป ไม่ได้ทำให้ความโรแมนติกลดลง แต่กลับเป็นบทสนทนาที่แสดงออกถึงความรักและความใส่ใจอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกปลอดภัยและได้รับการปกป้อง
ความแตกต่างทางเพศในการหย่าร้าง
Sexton ยังได้แบ่งปันข้อสังเกตเกี่ยวกับความแตกต่างทางเพศในประสบการณ์การหย่าร้าง เช่น ผู้หญิงมักจะต่อสู้เพื่อสิทธิ์ในการดูแลลูกมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากบทบาทความเป็นแม่ยังคงถูกมองว่าเป็นส่วนสำคัญของอัตลักษณ์ทางสังคม นอกจากนี้ สังคมยังมองการนอกใจของผู้ชายและผู้หญิงต่างกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมและความคาดหวังทางเพศที่ฝังรากลึก
ความสำคัญของการสื่อสารที่ซื่อสัตย์
ปัญหาความสัมพันธ์ส่วนใหญ่เกิดจากสองสิ่ง: เราไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และเราไม่รู้วิธีแสดงออกถึงสิ่งที่ต้องการนั้น Sexton เน้นย้ำว่า การหลีกเลี่ยงการสนทนาที่ยากลำบากในตอนแรก จะนำไปสู่การสนทนาที่ยากยิ่งกว่าในศาลหย่าร้าง การยอมรับความเปราะบางของความรัก และการบำรุงรักษาความสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอด้วยการสื่อสารที่เปิดเผยและซื่อสัตย์ คือกุญแจสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์ให้แข็งแรง
สื่อสังคมออนไลน์และภาพลวงตาของความรัก
Andrew Huberman และ James Sexton ยังได้พูดถึงผลกระทบของสื่อสังคมออนไลน์และภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้ (Rom-coms) ที่มักนำเสนอภาพความรักที่สมบูรณ์แบบและไม่สมจริง สิ่งเหล่านี้สร้างความคาดหวังที่สูงเกินไปและทำให้ผู้คนรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของตนเองไม่ดีพอ การยอมรับความเป็นมนุษย์ที่บกพร่อง ไม่สมบูรณ์แบบของทั้งตัวเองและคู่รัก คือรากฐานของความรักที่แท้จริงและยั่งยืน
เวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มพูดคุยคือ 'ตอนนี้'
สำหรับผู้ที่อยู่ในความสัมพันธ์อยู่แล้ว การพูดคุยเรื่อง 'Post-nup' อาจมีข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่แนวคิดหลักของ Sexton คือ "เวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นคือ 5 ขวบ หรือไม่ก็ตอนนี้" ไม่ว่าคุณจะแต่งงานมานานแค่ไหน การเริ่มต้นบทสนทนาที่ซื่อสัตย์เกี่ยวกับความต้องการ ความกลัว และสิ่งที่แต่ละฝ่ายรู้สึกรักและเห็นคุณค่าในกันและกัน จะช่วยเสริมสร้างความผูกพันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น การแสดงออกถึงความรักด้วยวิธีง่ายๆ เช่น การเขียนโน้ต หรือการเดินคุยกันสัปดาห์ละครั้งเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้สึกและข้อเสนอแนะ ล้วนเป็น 'การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน' ที่สำคัญสำหรับความสัมพันธ์
เนื้อหาของ James Sexton และ Dr. Andrew Huberman มีความลึกซึ้งและให้มุมมองที่แตกต่างออกไปจากความเชื่อเดิมๆ เกี่ยวกับความรักและการแต่งงาน การกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริงและสื่อสารอย่างซื่อสัตย์ตั้งแต่ต้นคือรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ที่มั่นคงและมีความสุข
หากคุณต้องการเจาะลึกและรับฟังเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจเพิ่มเติม อย่าพลาดชมคลิปเต็มด้านบน หรืออ่านบทความอื่นๆ ในหมวดสุขภาพจิตและอารมณ์ของเรา