ประเด็นสำคัญ
- อย่าท่องจำสคริปต์ แต่ให้มีแผนที่และโครงสร้างที่ชัดเจน เพื่อลดภาระทางความคิด (Cognitive Load) และช่วยให้คุณสื่อสารได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- หัวใจของการสื่อสารคือการเชื่อมโยงกับผู้ฟัง และการแสดงออกถึง 'ความแท้จริง' (Authenticity) ซึ่งมาจากการเข้าใจคุณค่าและสิ่งที่คุณยึดมั่น
- การพัฒนาทักษะการสื่อสารต้องอาศัย 3 สิ่ง: การทำซ้ำ (Repetition), การสะท้อนกลับ (Reflection) และคำแนะนำ (Feedback) จากผู้อื่น
- จัดการความกังวลก่อนพูดด้วยเทคนิคทางกายภาพและจิตใจ เช่น การทำให้ร่างกายเย็นลง การหายใจออกยาวๆ การทำสมาธิ หรือการฝึก Tongue Twister เพื่อดึงตัวเองมาอยู่กับปัจจุบัน
ในโลกที่การสื่อสารมีความสำคัญอย่างยิ่ง Andrew Huberman ได้เชิญ Matt Abrahams ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารจาก Stanford Graduate School of Business มาร่วมแบ่งปันเคล็ดลับและเทคนิคที่จะช่วยให้เราสื่อสารได้อย่างชัดเจนและมั่นใจในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการพูดในที่สาธารณะ การสนทนาแบบตัวต่อตัว หรือแม้แต่การรับมือกับความกังวล
ความกลัวการพูดในที่สาธารณะ: รากฐานจากวิวัฒนาการ
Matt Abrahams ชี้ว่าความกลัวการพูดในที่สาธารณะมีรากฐานมาจากวิวัฒนาการ เมื่อมนุษย์อยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ สถานะทางสังคมมีความสำคัญต่อการเข้าถึงทรัพยากร การทำสิ่งที่เสี่ยงต่อสถานะจึงเป็นเรื่องที่น่ากลัว ซึ่งความรู้สึกนี้ยังคงฝังลึกอยู่ในตัวเรา แม้ในสถานการณ์ปัจจุบันอย่างการพูดต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก หรือการคุยเรื่องสำคัญกับเจ้านาย
สาระสำคัญหรือวิธีการนำเสนอ: อะไรสำคัญกว่ากัน?
ทั้ง Andrew และ Matt เห็นตรงกันว่าทั้ง 'อะไรที่คุณพูด' และ 'คุณพูดอย่างไร' ล้วนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน หากเนื้อหาไม่สมเหตุสมผลหรือสับสน ผู้ฟังก็อาจไม่เข้าใจ แต่หากคุณนำเสนอด้วยความมั่นใจ ใช้เสียงที่หนักแน่น และมีภาษากายที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ข้อความของคุณเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ฟังได้ดียิ่งขึ้น
สร้างความน่าเชื่อถือและความแท้จริง (Authenticity)
Matt แนะนำว่าการสร้างความน่าเชื่อถือไม่จำเป็นต้องเริ่มด้วยการโอ้อวดตำแหน่งหรือประสบการณ์ แต่ควรเริ่มต้นด้วยการเชื่อมโยงกับผู้ฟัง การแสดงให้เห็นว่าคุณมีคุณค่าที่จะมอบให้และเนื้อหาของคุณเกี่ยวข้องกับพวกเขาต่างหากที่สำคัญ เขาเรียกความน่าเชื่อถือแบบนี้ว่า 'Costco Credibility' เหมือนกับการได้ลองชิมสินค้าฟรีที่ Costco ซึ่งทำให้คุณเชื่อมั่นในคุณภาพ นอกจากนี้ 'ความแท้จริง' คือการเข้าใจสิ่งสำคัญที่คุณยึดมั่นและสื่อสารออกมาอย่างชัดเจน
การเอาชนะการตัดสินตัวเอง
การตัดสินและประเมินตัวเองตลอดเวลาเป็นอุปสรรคสำคัญของการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ Matt ยกตัวอย่างแบบฝึกหัด Improv ที่ให้นักเรียนชี้ไปที่วัตถุแล้วเรียกชื่อสิ่งที่ไม่ใช่ เพื่อฝึกการหลุดพ้นจากการตัดสินใจ ซึ่งช่วยให้เราใช้พลังงานสมองไปกับการส่งสารให้ชัดเจน แทนที่จะกังวลว่าเราทำได้ดีแค่ไหน
การเตรียมตัวสำหรับการสื่อสารทุกรูปแบบ: ทำซ้ำ สะท้อนกลับ และคำแนะนำ
Matt เน้นย้ำว่าการพัฒนาทักษะการสื่อสารต้องอาศัย 3 สิ่ง คือ การทำซ้ำ (Repetition), การสะท้อนกลับ (Reflection) และคำแนะนำ (Feedback) เหมือนนักกีฬาที่ฝึกซ้อมซ้ำๆ เพื่อให้พร้อมในสถานการณ์จริง เขายังแนะนำให้บันทึกสิ่งที่พูดไปในแต่ละวันว่าอะไรดี อะไรควรปรับปรุง และทบทวนทุกสัปดาห์ เพื่อวางแผนการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้น
โครงสร้างคือหัวใจของความเข้าใจ
สมองของเราจดจำข้อมูลที่เป็นรายการได้ไม่ดีนัก แต่จะเข้าใจเรื่องราวที่มีโครงสร้างได้ดีกว่า Matt แนะนำให้ใช้โครงสร้างในการนำเสนอ เช่น 'ปัญหา-วิธีแก้-ประโยชน์' หรือ 'อะไร-ทำไม-อะไรต่อไป' การมีโครงสร้างที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้ฟังย่อยข้อมูลได้ง่ายขึ้น
จัดการความกังวลก่อนพูด
Matt แนะนำเทคนิคที่หลากหลายในการลดความกังวลก่อนพูด:
- จัดการอาการทางกายภาพ: หากคุณเหงื่อออกหรือหน้าแดง ลองถือของเย็นๆ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิร่างกาย การฝึกหายใจออกยาวๆ ก็ช่วยให้ร่างกายสงบลงได้
- เปลี่ยนโฟกัส: แทนที่จะกังวลถึงผลลัพธ์ที่ไม่ดีในอนาคต ให้ดึงตัวเองมาอยู่กับปัจจุบันด้วยการสนทนาเล็กน้อยก่อนขึ้นพูด ฟังเพลงที่ชอบ หรือฝึก Tongue Twister เพื่อวอร์มอัพและสร้างสมาธิ
- การใช้เสียง: เมื่อกังวล เสียงเรามักจะสูงขึ้นและตื้นขึ้น ลองฝึกหายใจเข้าลึกๆ และพูดด้วยโทนเสียงที่เป็นธรรมชาติและต่ำลง
รับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน
หากคุณ 'สมองว่างเปล่า' กลางคัน Matt แนะนำว่าอย่าท่องจำสคริปต์ทั้งหมด แต่ให้มีโครงสร้างและแผนที่นำทางที่ชัดเจน หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ให้ลองทำตามขั้นตอน:
- ทบทวนสิ่งที่เพิ่งพูดไป: การพูดซ้ำสิ่งที่เพิ่งพูดช่วยให้คุณกลับมาสู่เส้นทางได้
- เบี่ยงเบนความสนใจ: หากยังนึกไม่ออก ให้ถามคำถามกับผู้ฟัง เพื่อซื้อเวลาให้ตัวเองคิด
การสื่อสารกับคนที่ไม่เก่งพูด
สำหรับคนที่ต้องการสื่อสารกับคนที่ไม่ค่อยสบายใจกับการพูด Matt แนะนำให้ 'นำด้วยคำถาม' (Lead with questions) เพื่อดึงให้อีกฝ่ายได้พูดในสิ่งที่สำคัญสำหรับพวกเขา และเมื่อพวกเขาตอบ ให้พื้นที่พวกเขาได้ 'เล่าเพิ่มหน่อย' (Tell me more) การใช้ความอยากรู้อยากเห็นจะช่วยให้บทสนทนาไหลลื่นและสบายใจขึ้นสำหรับทุกคน
การรับมือกับการขัดจังหวะและคำฟุ่มเฟือย
เพื่อจัดการกับการถูกขัดจังหวะ Matt แนะนำให้ตั้งความคาดหวังตั้งแต่ต้น หรือใช้เทคนิค 'Paraphrasing' (การสรุปความ) เพื่อทวงพื้นที่การพูดคืนมา เช่น 'ประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่คุณพูดถึงนั้นสำคัญมาก และเราจะคุยกันเรื่องนี้ต่อในหัวข้อถัดไป' ส่วนการลดคำฟุ่มเฟือย (Filler Words) เช่น 'อืม' 'เอ่อ' เขาแนะนำเทคนิค 'Landing Phrases' คือการฝึกพูดประโยคให้จบลงด้วยการ 'หายใจออกจนหมด' เพื่อบังคับให้ต้องหายใจเข้าและสร้างการเว้นวรรคที่เป็นธรรมชาติ
บทบาทของกิจกรรมทางกายและการทำงานบริการ
Matt เชื่อว่ากิจกรรมทางกาย เช่น ศิลปะการต่อสู้ ช่วยสร้างความมั่นใจและการรับรู้ร่างกาย ซึ่งส่งผลดีต่อการสื่อสาร นอกจากนี้ การทำงานในสายบริการลูกค้าตั้งแต่เด็กก็เป็นบทเรียนอันล้ำค่าในการเรียนรู้การสื่อสารกับผู้คนหลากหลายประเภท และการตอบสนองความต้องการของผู้อื่น
ผลกระทบของยุคสมัยต่อการสื่อสาร
ยุค Social Media และช่วงล็อกดาวน์จากโรคระบาดได้เปลี่ยนความคาดหวังและทักษะการสื่อสารของผู้คน Matt ชี้ว่าคนรุ่นใหม่มีความสามารถในการจัดการตัวตนบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นทักษะที่คนรุ่นอื่นสามารถเรียนรู้ได้ แม้ว่าจะมีบางกลุ่มที่อาจพลาดโอกาสในการพัฒนาทักษะการสื่อสารในชีวิตจริงไปบ้าง
สรุปการเตรียมตัวสำหรับการนำเสนอ (4 ข้อหลัก)
- เข้าใจผู้ฟัง: ใครคือผู้ฟังของคุณ? อะไรคือสิ่งที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับพวกเขา?
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน: คุณต้องการให้ผู้ฟังรู้อะไร? รู้สึกอย่างไร? และทำอะไร?
- ใช้โครงสร้าง: อย่าแค่ลิสต์ข้อมูล แต่ให้จัดเรียงอย่างมีตรรกะ เช่น ปัญหา-วิธีแก้-ประโยชน์
- ฝึกฝน: การมีสาระที่ดีไม่พอ คุณต้องฝึกฝนการนำเสนอด้วย
Matt ทิ้งท้ายว่า การให้เครื่องมือเพื่อจัดการความกังวลคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เราสามารถมอบให้ตัวเองได้
เนื้อหาจาก Matt Abrahams และ Dr. Andrew Huberman อัดแน่นไปด้วยเทคนิคและมุมมองที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการสื่อสารในทุกมิติ การนำไปปรับใช้จะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการพูดและการเชื่อมโยงกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูคลิปฉบับเต็มเพื่อเจาะลึกทุกรายละเอียดและรับฟังคำแนะนำที่เป็นประโยชน์เพิ่มเติมได้ด้านบน หรืออ่านบทความอื่นๆ เพื่อพัฒนาตัวเองต่อได้เลย!