สรุปหลักการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงและเติบโตไปพร้อมกัน | Esther Perel x Andrew Huberman

วันนี้เรามาสรุปคลิปจากช่อง Andrew Huberman ที่ได้เชิญ Esther Perel นักจิตบำบัดและผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์โรแมนติกอันดับต้นๆ ของโลก มาพูดคุยในหัวข้อสำคัญที่ทุกคนควรทำความเข้าใจ ไม่ว่าคุณจะกำลังอยู่ในความสัมพันธ์ กำลังมองหา หรือต้องการฟื้นฟูความรัก บทความนี้จะมอบมุมมองเชิงลึกที่น่าสนใจ ซึ่งมีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่สนใจสุขภาพจิตและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน

ดูวิดีโอต้นฉบับบน YouTube

สารบัญวิดีโอ

ประเด็นสำคัญ

  • ความสัมพันธ์โรแมนติกไม่ใช่แค่การค้นหาคนที่ 'ใช่' แต่เป็นการเปิดใจที่จะ 'เปลี่ยน' ตัวเองไปพร้อมกับอีกฝ่าย
  • ความขัดแย้งเป็นส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ การเปลี่ยนจาก 'การตอบโต้' เป็น 'ความอยากรู้อยากเห็น' คือกุญแจสู่การเติบโต
  • การขอโทษที่แท้จริงคือการยอมรับความเจ็บปวดของอีกฝ่าย ไม่ใช่แค่การรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง และการให้อภัยคืออิสรภาพของเรา
  • เพศสัมพันธ์ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ แต่เป็น 'เรื่องเล่าคู่ขนาน' ที่สะท้อนความต้องการทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งที่สุดของเรา
  • การซ่อมแซมความสัมพันธ์ไม่ได้หยุดแค่การแก้ไขปัญหา แต่คือการ 'ฟื้นฟู' (Revival) ความมีชีวิตชีวา ความอยากรู้อยากเห็น และการสำรวจสิ่งใหม่ๆ ร่วมกัน

ในโลกที่ซับซ้อนขึ้นทุกวัน ความสัมพันธ์โรแมนติกก็เช่นกัน Andrew Huberman และ Esther Perel ได้มาถอดรหัสความซับซ้อนเหล่านี้ โดยเริ่มต้นด้วยคำถามที่น่าสนใจ: การตัดสินใจเข้าสู่ความสัมพันธ์โรแมนติกคือการรักษาอัตลักษณ์เดิมของเรา หรือเป็นการเปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลง?

อัตลักษณ์และการเติบโตในความสัมพันธ์

Esther Perel เสนอว่ามันเป็นทั้งสองอย่าง เราพบคนอื่นเพื่อค้นหาตัวเอง และเราต้องการถูกเซอร์ไพรส์โดยตัวตนที่เรายังไม่รู้จัก เราทุกคนมีความต้องการพื้นฐานสองอย่างคือ ความมั่นคง (Security) และอิสระ/การผจญภัย (Freedom & Adventure) รวมถึงการอยู่ร่วมกัน (Togetherness) และการแยกจากกัน (Separateness) ในความสัมพันธ์ เราเข้ามาเพื่อสร้างความเหมือนและความต่างไปพร้อมกัน

สิ่งที่ดึงดูดเราเข้าหากันในตอนแรก อาจกลายเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งในภายหลัง เพราะเราต้องการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ไม่มากเกินไป และไม่ใช่ตามเงื่อนไขของอีกฝ่าย เราต้องการการเปลี่ยนแปลงแต่ก็กลัวมัน การที่เรามองหาคนที่เติมเต็มส่วนที่เราขาด หรือที่เราอยากพัฒนาในตัวเองนั้น เมื่อถึงจุดที่ถูกท้าทาย เรามักจะเกิดความรู้สึกต่อต้านหรือหงุดหงิด การเข้าใจว่าทุกระบบ รวมถึงความสัมพันธ์ ต่างก็พยายามรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งสำคัญ

ความสัมพันธ์แบบ Cornerstone vs. Capstone

Esther Perel ยังได้แบ่งความสัมพันธ์ออกเป็นสองประเภทตามช่วงอายุที่เริ่มต้น:

  • Cornerstone Relationship: ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นในวัย 20 ต้นๆ ที่เราสร้างรากฐานชีวิตไปพร้อมกัน เติบโตไปด้วยกัน เก็บเงินด้วยกัน สร้างชีวิตด้วยกัน
  • Capstone Relationship: ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นในวัย 30 ปลายๆ หรือหลังจากนั้น ซึ่งแต่ละฝ่ายได้สร้างอัตลักษณ์ ค่านิยม และความปรารถนาของตัวเองมาแล้ว เมื่อพบกัน อีกฝ่ายจะเป็นเหมือนการยืนยันสิ่งที่สร้างมาแล้ว และเราต่างเป็น 'Capstone' ที่วางอยู่บนฐานที่มั่นคงของกันและกัน

ความท้าทายของคู่รักที่เริ่มต้นความสัมพันธ์เร็วคือ จะทำอย่างไรให้ความสัมพันธ์ขยายตัวเพื่อรองรับการเติบโตและเปลี่ยนแปลงของแต่ละบุคคล ในขณะที่คู่รักที่เริ่มต้นช้าจะต้องหาพลังงานที่จะมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวหลังจากที่แต่ละคนได้นิยามตัวเองมาแล้ว

ความอยากรู้อยากเห็น: พลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง

เมื่อความขัดแย้งเกิดขึ้น เรามักจะยึดติดกับ 'เรื่องเล่า' ของตัวเองว่าเป็น 'ความจริง' Esther Perel ชี้ว่านี่คือจุดที่ 'ความอยากรู้อยากเห็น' (Curiosity) เข้ามามีบทบาทสำคัญ ความอยากรู้อยากเห็นคือการเปิดใจสำรวจสิ่งที่ไม่รู้ โดยไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ทางอารมณ์ใดๆ มันตรงกันข้ามกับการตอบโต้ (Reactivity) ที่มักจะนำไปสู่การตำหนิและการป้องกันตัว

นักจิตวิทยาคู่รักมักพบว่าคู่รักที่ขัดแย้งกันมักจะมองว่าเรื่องเล่าของตนเองเป็นความจริง และไม่สามารถเข้าใจมุมมองของอีกฝ่ายได้ การเปลี่ยนจากการคิดว่า 'ฉันถูก เธอผิด' ไปสู่ 'เรื่องเล่าของฉันและเรื่องเล่าของเธอ' เป็นก้าวแรกที่สำคัญ การรับรู้ว่าประสบการณ์ส่วนตัวเป็นสิ่งที่ถูกต้องในมุมของแต่ละคน แต่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงสากล จะช่วยเปิดประตูสู่ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ

ศิลปะแห่งการขอโทษและการให้อภัย

การขอโทษที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่การพูดว่า 'ฉันขอโทษ' แต่ต้องรวมถึงการยอมรับความรู้สึกของอีกฝ่ายด้วย เช่น 'ฉันทำพลาดไปแล้ว และมันสมเหตุสมผลมากที่คุณจะรู้สึกไม่พอใจ' หากอีกฝ่ายไม่สามารถรับคำขอโทษที่จริงใจได้ อาจเป็นเพราะพวกเขารู้สึกว่าการยอมรับคำขอโทษจะทำให้เรื่องราวดูไม่แย่เท่าที่ควร หรือทำให้พวกเขายอมแพ้ต่ออัตลักษณ์บางอย่างของตัวเอง

Esther Perel เน้นย้ำว่า การขอโทษ (Apology) เป็นประสบการณ์แบบทวิภาคี (Dyadic Experience) ที่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กัน แต่การให้อภัย (Forgiveness) คืออิสรภาพส่วนบุคคลที่คุณเลือกที่จะมอบให้ตัวเอง การให้อภัยไม่ได้หมายถึงการลืม หรือการยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่สำคัญ แต่มันคือการปลดปล่อยตัวเองจากความขุ่นเคือง

เพศสัมพันธ์: เรื่องเล่าคู่ขนานของความสัมพันธ์

Esther Perel เสนอแนวคิดที่น่าสนใจว่า เพศสัมพันธ์อาจไม่ใช่แค่ 'ภาพสะท้อน' ของความสัมพันธ์ แต่เป็น 'เรื่องเล่าคู่ขนาน' (Parallel Narrative) ที่มีความเป็นอิสระจากกัน การแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์อาจไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในห้องนอนเสมอไป ในทางกลับกัน การเปลี่ยนแปลงในเรื่องเพศสัมพันธ์อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ทั้งหมดได้

เธอชวนให้เราตั้งคำถามว่า 'คุณไปที่ไหนเมื่อมีเพศสัมพันธ์?' (Where do you go in sex?) มันคือการค้นหาความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณ ความใกล้ชิด ความเปราะบาง การยอมจำนน หรือความสนุกสนาน? เพศสัมพันธ์คือภาษาที่ซับซ้อนของความต้องการทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งที่สุด บาดแผล ความกลัว และความปรารถนาของเรา

การนอกใจ: ค้นหา 'ตัวตนอีกคน'

ในประเด็นการนอกใจ Esther Perel ชี้ว่าไม่ใช่ทุกกรณีที่เกิดจากความไม่พอใจในความสัมพันธ์ บางครั้งมันคือการที่คนคนหนึ่งต้องการ 'ค้นหาตัวตนอีกคน' หรือเชื่อมโยงกับส่วนที่หายไปของตัวเอง ที่ไม่สามารถทำได้ในความสัมพันธ์ปัจจุบัน หลายคนรู้สึก 'มีชีวิตชีวา' (Alive) ขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องทางเพศ แต่เป็น 'Erotic' ในความหมายที่กว้างกว่า คือความมีชีวิตชีวา ความกระตือรือร้น ความหวัง ความอยากรู้อยากเห็น จินตนาการ และความขี้เล่น

ความใกล้ชิด: ไม่เสียตัวตนแต่ไม่เสียเธอ

หนึ่งในภารกิจหลักของความสัมพันธ์โรแมนติกคือ 'ฉันจะใกล้ชิดกับเธอได้อย่างไรโดยไม่สูญเสียตัวตนของฉันไป และฉันจะรักษาตัวตนของฉันไว้ได้อย่างไรโดยไม่สูญเสียเธอไป?' เราทุกคนมีความต้องการทั้งการอยู่ร่วมกันและการแยกจากกัน บางคนกลัวการถูกทอดทิ้ง (Fear of Abandonment) ในขณะที่บางคนกลัวการถูกบีบรัด (Fear of Suffocation) ซึ่งมักจะพบว่าคู่รักมักจะมีรูปแบบที่เติมเต็มจุดอ่อนของกันและกัน

การซ่อมแซมสู่การฟื้นฟู (Revival)

การซ่อมแซมความสัมพันธ์เริ่มต้นด้วยการ 'ยอมรับ' ในสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงความรู้สึกผิดและความเสียใจต่อความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวการกระทำเอง จากนั้นคือการแสดงให้เห็นว่าเรา 'ให้คุณค่า' กับอีกฝ่ายอย่างแท้จริง และท้ายที่สุดคือ 'การฟื้นฟูทาง Erotic' ซึ่งหมายถึงการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่เสี่ยง ท้าทาย และเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ออกจากโซนสบาย เพื่อให้เราได้เห็นตัวเองและเห็นกันและกันในมุมมองใหม่ๆ

คำถามสำคัญสำหรับทุกคน

Esther Perel ปิดท้ายด้วยคำถามที่ทรงพลังสำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในความสัมพันธ์หรือไม่ก็ตาม: 'เมื่อรู้จักตัวเองดีแล้ว คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้การอยู่ร่วมกับคุณเป็นเรื่องยาก?' ไม่มีใคร 'พร้อม' อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับความสัมพันธ์ เราทุกคนเป็นงานที่กำลังดำเนินอยู่ และปัญหาความสัมพันธ์ส่วนใหญ่ไม่ใช่ปัญหาที่ต้อง 'แก้ไข' แต่เป็น 'ความย้อนแย้ง' (Paradoxes) ที่เราต้องเรียนรู้ที่จะบริหารจัดการ

เนื้อหาจาก Esther Perel และ Dr. Andrew Huberman มีความละเอียดและลึกซึ้งอย่างยิ่ง เป็นการเปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนและมีชีวิตชีวา การทำความเข้าใจแนวคิดเหล่านี้จะช่วยให้เราสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นได้ ไม่ใช่แค่ในเชิงโรแมนติก แต่รวมถึงความสัมพันธ์อื่นๆ ในชีวิตด้วย

ดูคลิปเต็มด้านบนเพื่อรับชมการสนทนาฉบับเต็ม และรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม หรืออ่านบทความเชิงลึกอื่น ๆ ต่อไปเพื่อพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ