ประเด็นสำคัญ
- จิตใจของเราประกอบด้วย 'ส่วนต่างๆ' (Parts) ที่มีบทบาทและแรงจูงใจของตัวเอง ไม่ใช่เป็นหนึ่งเดียว
- บาดแผลทางใจ (Trauma) ทำให้ 'ส่วนต่างๆ' เหล่านี้ถูกบังคับให้รับบทบาทผู้พิทักษ์ที่รุนแรงและอาจเป็นอันตราย เช่น ผู้จัดการ (Managers) และนักดับเพลิง (Firefighters) เพื่อปกป้อง 'ผู้ถูกเนรเทศ' (Exiles) ที่อ่อนแอ
- แก่นแท้ของตัวเราคือ 'Self' (ตัวตนที่แท้จริง) ซึ่งมีคุณสมบัติ 8 ประการ (8 C's) ได้แก่ ความอยากรู้อยากเห็น (Curiosity), ความสงบ (Calm), ความมั่นใจ (Confidence), ความเห็นอกเห็นใจ (Compassion), ความกล้าหาญ (Courage), ความชัดเจน (Clarity), ความคิดสร้างสรรค์ (Creative) และการเชื่อมโยง (Connected) ซึ่งเป็นผู้นำภายในที่สามารถเยียวยาส่วนต่างๆ ได้
- IFS Therapy สอนให้เราสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับ 'ส่วนต่างๆ' เหล่านี้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความเห็นอกเห็นใจ เพื่อปลดปล่อยพวกเขาจากบทบาทที่รุนแรง และเปลี่ยนให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า
- IFS เป็นการฝึกฝนตลอดชีวิตที่ช่วยให้เราเข้าถึง 'Self-leadership' ซึ่งไม่เพียงแต่เยียวยาภายใน แต่ยังสามารถนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในความสัมพันธ์และสังคมได้อีกด้วย
IFS Therapy: การทำความเข้าใจส่วนต่างๆ ภายในตัวเรา
Dr. Richard Schwartz ผู้ก่อตั้ง Internal Family Systems (IFS) Therapy ได้มาแบ่งปันแนวคิดที่ปฏิวัติวงการจิตบำบัดบน Huberman Lab Podcast โดย IFS แตกต่างจากการบำบัดอื่นๆ ตรงที่ไม่ได้เน้นไปที่ความสัมพันธ์กับผู้อื่นเป็นหลัก แต่กลับมุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจ 'ส่วนต่างๆ' (Parts) ของบุคลิกภาพที่ปรากฏขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ และอาจก่อให้เกิดความวิตกกังวล ความขุ่นเคือง หรือภาวะซึมเศร้า
แนวคิดพื้นฐานของ IFS คือจิตใจของเราไม่ได้เป็นหนึ่งเดียว แต่ประกอบด้วย 'ส่วนต่างๆ' มากมาย ซึ่ง Dr. Schwartz เปรียบเหมือน 'บุคลิกภาพย่อย' ที่มีคุณค่าและทรัพยากรในการช่วยให้เราอยู่รอดและเติบโตมาตั้งแต่เกิด
ผู้พิทักษ์ (Protectors) และผู้ถูกเนรเทศ (Exiles): บทบาทที่เกิดจากบาดแผล
บาดแผลทางใจ (Trauma) การบาดเจ็บจากการผูกพัน (Attachment Injuries) หรือประสบการณ์เลวร้ายต่างๆ บังคับให้ 'ส่วนต่างๆ' ที่มีคุณค่าตามธรรมชาติเหล่านี้ต้องสวมบทบาทที่อาจเป็นอันตราย พวกเขาถูกแช่แข็งในห้วงเวลาที่เกิดบาดแผล และใช้ชีวิตราวกับว่าเหตุการณ์นั้นยังคงดำเนินอยู่ ทำให้พวกเขาต้องอยู่ในบทบาท 'ผู้พิทักษ์' (Protectors) ที่รุนแรงและอาจขัดขวางชีวิตของเรา
- ผู้ถูกเนรเทศ (Exiles): คือส่วนที่อ่อนแอและบอบบางที่สุดของเราที่ได้รับบาดเจ็บ รู้สึกไร้ค่า หรือหวาดกลัวจากเหตุการณ์เลวร้าย เรามักจะกักขังพวกเขาไว้ เพราะไม่ต้องการรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้นอีกต่อไป
- ผู้จัดการ (Managers): ผู้พิทักษ์กลุ่มนี้พยายามจัดการชีวิตของเราเพื่อไม่ให้เราถูกกระตุ้นอีก เช่น การพยายามทำให้ดูดีเพื่อไม่ให้ถูกปฏิเสธ หรือทำงานหนักเพื่อให้รู้สึกมีคุณค่า บางส่วนก็กลายเป็น 'นักวิจารณ์ภายใน' ที่คอยตำหนิเพื่อให้เราทำตามที่พวกเขาต้องการ
- นักดับเพลิง (Firefighters): เมื่อผู้จัดการล้มเหลวและผู้ถูกเนรเทศถูกกระตุ้นจนเกิด 'เปลวเพลิงแห่งอารมณ์ดิบ' นักดับเพลิงจะเข้ามาจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินเหล่านี้อย่างหุนหันพลันแล่น ไม่สนใจผลกระทบที่ตามมา เช่น การเสพติด การแยกตัว หรือความโกรธเกรี้ยวรุนแรง
'Self' (ตัวตนที่แท้จริง): แก่นแท้แห่งการเยียวยา
Dr. Schwartz ชี้ให้เห็นว่าภายใต้บทบาทของผู้พิทักษ์และผู้ถูกเนรเทศ มี 'Self' (ตัวตนที่แท้จริง) ซึ่งเป็นแก่นแท้ของตัวเราที่เข้าถึงได้เมื่อส่วนอื่นๆ เปิดทาง 'Self' มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยม 8 ประการ (8 C's): ความอยากรู้อยากเห็น (Curiosity), ความสงบ (Calm), ความมั่นใจ (Confidence), ความเห็นอกเห็นใจ (Compassion), ความกล้าหาญ (Courage), ความชัดเจน (Clarity), ความคิดสร้างสรรค์ (Creative) และการเชื่อมโยง (Connected) 'Self' คือผู้นำภายในที่รู้ว่าจะเยียวยาส่วนต่างๆ เหล่านี้ได้อย่างไร
การนำ IFS มาใช้ในชีวิตประจำวันและการเยียวยา
IFS ไม่ใช่แค่การบำบัดในห้อง แต่เป็นการฝึกฝนในชีวิตประจำวัน (Life Practice) และเป็นกระบวนทัศน์ในการทำความเข้าใจจิตใจของเรา Andrew Huberman ได้ทดลองทำเซสชันสั้นๆ เพื่อสำรวจ 'ส่วน' ที่เขารู้สึกเหมือน 'ตุ๊กตาหมีไทเทเนียม' ที่สร้างแรงกดดันภายในเมื่อถูกเข้าใจผิดเรื่องแรงจูงใจ การทำความเข้าใจส่วนนี้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้ส่วนนั้นผ่อนคลายและเผยให้เห็นว่ามันกำลังปกป้องส่วนที่กลัวการตัดสินผู้อื่น
Dr. Schwartz แนะนำว่าเราสามารถเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับ 'ผู้พิทักษ์' ของเรา ถามว่าพวกเขาต้องการให้เรารู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขา และพวกเขากลัวอะไรจะเกิดขึ้นหากพวกเขาไม่ทำหน้าที่นั้น การทำเช่นนี้จะช่วยให้เราสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับส่วนต่างๆ ด้วยความเห็นอกเห็นใจ และเมื่อส่วนที่ถูกปกป้องได้รับการเยียวยา ผู้พิทักษ์ก็จะสามารถปลดปล่อยตัวเองจากบทบาทที่รุนแรงและกลับมาเป็นส่วนที่มีคุณค่าตามธรรมชาติ
นอกจากนี้ IFS ยังสามารถใช้ร่วมกับการบำบัดด้วยยาจิตเวช (Psychedelics) เช่น Ketamine ซึ่งช่วยให้ผู้จัดการผ่อนคลายลงชั่วคราว ทำให้ 'Self' และผู้ถูกเนรเทศเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ซึ่งเร่งกระบวนการเยียวยาได้
Legacy Burdens และการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก
Dr. Schwartz ยังกล่าวถึงแนวคิด 'Legacy Burdens' หรือภาระทางมรดก ซึ่งเป็นความเชื่อและอารมณ์ที่รุนแรงที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษและขับเคลื่อน 'ส่วนต่างๆ' ของเราให้แสดงออกอย่างสุดโต่ง ความขัดแย้งมากมายในโลกนี้ รวมถึงในประเด็นทางการเมืองหรือสังคม ก็ได้รับอิทธิพลจากภาระทางมรดกเหล่านี้ IFS มีศักยภาพในการช่วยให้ผู้คนปลดเปลื้องภาระเหล่านี้ และเข้าถึง 'Self-leadership' มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขความขัดแย้งด้วยความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจในระดับที่กว้างขึ้น
เนื้อหาของ Dr. Andrew Huberman และ Dr. Richard Schwartz มีความละเอียดและลึกซึ้งมาก บทความนี้เป็นเพียงบทสรุปเบื้องต้น แนะนำให้ดูคลิปเต็มเพื่อทำความเข้าใจกระบวนการและประสบการณ์การบำบัด IFS อย่างสมบูรณ์
ดูคลิปเต็มด้านบนเพื่อเจาะลึก IFS Therapy หรืออ่านบทความเชิงลึกอื่น ๆ เกี่ยวกับสุขภาพจิตต่อได้เลย!