ประเด็นสำคัญ
- การเลือกคู่ครองแบ่งเป็น 2 แบบหลักคือระยะสั้น (ชั่วคราว) และระยะยาว (ความสัมพันธ์ที่ผูกมัด) ซึ่งมีเกณฑ์การเลือกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
- คุณสมบัติสากลที่ทั้งชายและหญิงต้องการในคู่ครองระยะยาวคือ สติปัญญา, ความเมตตา, ความรัก, สุขภาพดี, ความน่าเชื่อถือ และความมั่นคงทางอารมณ์
- ผู้หญิงมักให้ความสำคัญกับศักยภาพในการหาทรัพยากรและสถานะทางสังคมของผู้ชาย ส่วนผู้ชายมักให้ความสำคัญกับความน่าดึงดูดทางกายภาพและสัญญาณของความอ่อนเยาว์/ภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิง
- ความหึงหวงเป็นกลไกทางวิวัฒนาการที่ช่วยปกป้องการลงทุนในความสัมพันธ์ และอาจรุนแรงขึ้นเมื่อเกิดความไม่สมดุลของ 'Mate Value' ในความสัมพันธ์
ในโลกแห่งความสัมพันธ์ การเลือกคู่ครองไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีกลไกทางจิตวิทยาและวิวัฒนาการอันซับซ้อนซ่อนอยู่ Dr. David Buss ได้ไขความลับนี้ผ่านงานวิจัยขนาดใหญ่ทั่วโลก โดยแบ่งการเลือกคู่ครองออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ การเลือกคู่ครองระยะสั้น (Short-Term Mating) และระยะยาว (Long-Term Mating) ซึ่งแต่ละประเภทก็มีเกณฑ์การตัดสินใจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
รากฐานจากทฤษฎีการคัดเลือกทางเพศของดาร์วิน
แนวคิดนี้มาจากทฤษฎีการคัดเลือกทางเพศของชาร์ลส์ ดาร์วิน ซึ่งอธิบายการวิวัฒนาการของลักษณะเฉพาะที่ไม่ใช่เพื่อความอยู่รอด แต่เพื่อความได้เปรียบในการหาคู่ โดยมี 2 กระบวนการหลัก:
- การแข่งขันภายในเพศเดียวกัน (Intrasexual Competition): การที่สมาชิกเพศเดียวกันแข่งขันกันเพื่อเข้าถึงคู่ครอง เช่น การต่อสู้เพื่อแย่งชิงตำแหน่งหรือสถานะทางสังคม คุณสมบัติที่นำไปสู่ชัยชนะจะถูกส่งต่อในจำนวนที่มากขึ้น
- การเลือกคู่ครองโดยมีข้อกำหนด (Preferential Mate Choice): หากสมาชิกเพศหนึ่งมีข้อตกลงร่วมกันเกี่ยวกับคุณสมบัติที่ต้องการในคู่ครอง สมาชิกเพศตรงข้ามที่มีคุณสมบัตินั้นๆ จะมีความได้เปรียบในการหาคู่ ซึ่งจะส่งผลให้คุณสมบัติเหล่านั้นเพิ่มขึ้นในประชากรเมื่อเวลาผ่านไป
คุณสมบัติสากลในคู่ครองระยะยาว
จากการศึกษาใน 37 วัฒนธรรมทั่วโลก Dr. Buss พบว่ามีคุณสมบัติบางอย่างที่ทั้งชายและหญิงปรารถนาเหมือนกันในคู่ครองระยะยาว ได้แก่ สติปัญญา, ความเมตตา, ความรักและความดึงดูดซึ่งกันและกัน, สุขภาพที่ดี, ความน่าเชื่อถือ และความมั่นคงทางอารมณ์ (แม้ว่าผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางอารมณ์มากกว่าเล็กน้อยก็ตาม)
ความแตกต่างทางเพศในการเลือกคู่ครองระยะยาว
- ผู้หญิง: มักให้ความสำคัญกับความสามารถในการหารายได้, อายุที่มากกว่าเล็กน้อย, และคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งทรัพยากร เช่น สถานะทางสังคม, ความมุ่งมั่น, ความทะเยอทะยาน หรือ 'เส้นทางทรัพยากร' ในระยะยาว (ไม่ได้ดูแค่สิ่งที่เขามีตอนนี้ แต่ดูศักยภาพในอนาคต) รวมถึงการใช้ 'Mate Choice Copying' คือการที่ผู้หญิงจะมองว่าผู้ชายคนหนึ่งน่าดึงดูดมากขึ้น หากมีผู้หญิงคนอื่นสนใจเขาอยู่แล้ว เหตุผลทางวิวัฒนาการคือ ภาระการตั้งครรภ์และการเลี้ยงดูบุตรเป็นต้นทุนที่สูงสำหรับผู้หญิง ทำให้การเลือกคู่ที่ดีมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
- ผู้ชาย: มักให้ความสำคัญกับความน่าดึงดูดทางกายภาพ ซึ่งเป็นสัญญาณของสุขภาพและความสามารถในการเจริญพันธุ์ (แม้จะไม่รู้ตัว) เช่น ผิวพรรณที่ใส, ดวงตาที่สดใส, ใบหน้าที่สมส่วน, อัตราส่วนเอวต่อสะโพกที่ดี, ริมฝีปากอิ่ม, ผมเงางาม รวมถึงอายุที่อ่อนกว่า (ผู้ชายอายุ 25 อาจชอบผู้หญิงวัย 20 ต้นๆ ผู้ชายอายุ 50 อาจชอบผู้หญิงวัย 35-38)
การหลอกลวงในโลกของการหาคู่
ทั้งชายและหญิงต่างมีการหลอกลวงในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในแอปพลิเคชันหาคู่ พวกเขามักจะโพสต์รูปภาพที่ดูดีกว่าความเป็นจริง (เช่น รูปตอนอายุน้อยกว่าหรือมุมที่ดีที่สุด) และผู้ชายมักจะโกหกเรื่องความคล้ายคลึงกันในด้านค่านิยมหรือความเชื่อ เพื่อดึงดูดผู้หญิง Dr. Buss แนะนำว่าการพบกันตัวต่อตัว เช่น การดื่มกาแฟ จะช่วยให้ประเมินคุณสมบัติหลายอย่างได้ดีขึ้น และสำหรับการประเมินความมั่นคงทางอารมณ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในความสัมพันธ์ระยะยาว ควรลองไปเที่ยวด้วยกันในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เพื่อดูว่าอีกฝ่ายรับมือกับความเครียดอย่างไร
ความแตกต่างในการเลือกคู่ครองระยะสั้น
- ผู้หญิง: ในการหาคู่ระยะสั้น ผู้หญิงอาจให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกมากขึ้น และอาจถูกดึงดูดโดยคุณสมบัติที่เรียกว่า 'Bad Boy' เช่น ผู้ชายที่หยิ่งเล็กน้อยหรือชอบเสี่ยง ซึ่งต่างจากคู่ครองระยะยาวที่มองหาคุณสมบัติ 'Good Dad'
- ผู้ชาย: ผู้ชายมักจะยอมลดมาตรฐานลงหากเป็นการหาคู่ระยะสั้นที่มีความเสี่ยงต่ำและไม่มีข้อผูกมัด บริบทภายนอกไม่สำคัญเท่าสัญญาณทางกายภาพที่ผู้หญิงแสดงออก
กลไกของความหึงหวง
ความหึงหวงเป็นอารมณ์ที่พัฒนามาเพื่อปกป้องการลงทุนในความสัมพันธ์ระยะยาว โดยจะถูกกระตุ้นเมื่อมีความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ เช่น การนอกใจ, ความห่างเหินทางอารมณ์, หรือการมี 'Mate Poachers' (บุคคลที่พยายามเข้ามาแย่งคู่ครอง) นอกจากนี้ ความหึงหวงยังอาจเกิดขึ้นเมื่อเกิด 'Mate Value Discrepancy' คือเมื่อคู่คนใดคนหนึ่งมีคุณค่าในตลาดคู่ครองสูงขึ้นอย่างกะทันหัน (เช่น ได้รับการเลื่อนตำแหน่งหรือประสบความสำเร็จอย่างมาก) ทำให้เกิดความเสี่ยงที่คนที่มีคุณค่าสูงกว่าจะนอกใจหรือเลิกราไปหาคนที่ดีกว่า การตอบสนองต่อความหึงหวงมีตั้งแต่การเฝ้าระวัง (ติดตาม, แฮกข้อมูล) ไปจนถึงความรุนแรง
Dark Triad: ด้านมืดของบุคลิกภาพ
Dark Triad ประกอบด้วยคุณสมบัติ 3 อย่าง ได้แก่ หลงตัวเอง (Narcissism), เจ้าเล่ห์ (Machiavellianism) และ ไซโคพาธ (Psychopathy) ผู้ชายมักมีคะแนนสูงกว่าผู้หญิงในคุณสมบัติเหล่านี้ คนที่มี Dark Triad สูงมักเป็นนักหลอกลวงทางเพศ มีเสน่ห์, เก่งในการยั่วยวนแล้วทอดทิ้ง และมีแนวโน้มที่จะคุกคามหรือบีบบังคับทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขามีกลยุทธ์การหาคู่ระยะสั้น
การสะกดรอยตาม (Stalking)
การสะกดรอยตามส่วนใหญ่ (ประมาณ 80%) เกิดจากผู้ชาย โดยมีแรงจูงใจเพื่อพยายามกลับไปคืนดีกับอดีตคู่รัก หรือเพื่อขัดขวางโอกาสในการหาคู่ใหม่ของเหยื่อ สิ่งที่น่ากลัวคือบางครั้งมันก็ 'ได้ผล' ในการขัดขวางความสัมพันธ์ใหม่ของเหยื่อ Dr. Buss และทีมวิจัยพบว่า สตอล์กเกอร์มักมี 'Mate Value' ที่ต่ำกว่าเหยื่อมาก ทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่สามารถหาคู่ครองที่มีคุณค่าเท่าเทียมกันได้อีก จึงใช้วิธีที่สิ้นหวังนี้เพื่อพยายามดึงเหยื่อกลับมา
รูปแบบความผูกพันในวัยเด็ก (Attachment Styles)
รูปแบบความผูกพันในวัยเด็กส่งผลต่อการเลือกคู่ครองในอนาคต:
- Secure Attachment (ความผูกพันที่มั่นคง): หากทั้งสองฝ่ายมีรูปแบบนี้ จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวที่ดี
- Avoidant Attachment (ความผูกพันแบบหลีกเลี่ยง): ผู้ที่มีรูปแบบนี้มักมีปัญหาเรื่องความใกล้ชิด และมีโอกาสนอกใจสูงขึ้น
- Anxious Attachment (ความผูกพันแบบวิตกกังวล): อาจสร้างปัญหาในความสัมพันธ์ เช่น การยึดติดมากเกินไป
การประเมิน Mate Value ของตนเอง
คนส่วนใหญ่ค่อนข้างประเมิน 'Mate Value' (คุณค่าในตลาดคู่ครอง) ของตนเองได้ดี ซึ่งเชื่อมโยงกับความภาคภูมิใจในตนเอง (Self-esteem) เช่น เมื่อได้รับการเลื่อนตำแหน่ง Self-esteem ก็จะสูงขึ้น แต่ก็มีบางคนที่ประเมินสูงเกินไป (เช่น คนหลงตัวเอง) หรือต่ำเกินไป 'Mate Value' มีทั้งส่วนที่เป็นฉันทามติ (สิ่งที่คนส่วนใหญ่เห็นพ้อง) และส่วนที่เป็นปัจเจกบุคคล (สิ่งที่บางคนให้คุณค่าเป็นพิเศษ) ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพราะช่วยให้ทุกคนมีโอกาสหาคู่ที่เหมาะสมกับตนเองได้
Dr. David Buss ยังได้แนะนำหนังสือของเขา ได้แก่ "When Men Behave Badly: The Hidden Roots of Sexual Deception, Harassment, and Assault" ซึ่งเจาะลึกความขัดแย้งทางเพศ รวมถึงการหลอกลวงในการหาคู่, ความขัดแย้งในความสัมพันธ์, การรับมือกับการเลิกรา, ความรุนแรงในคู่รัก, การสะกดรอยตาม และการคุกคามทางเพศ ส่วนหนังสือ "The Evolution of Desire: Strategies of Human Mating" ให้ภาพรวมกว้างๆ เกี่ยวกับกลยุทธ์การหาคู่ของมนุษย์ และ "Evolutionary Psychology: The New Science of the Mind" ซึ่งเป็นตำราเรียนที่ครอบคลุมจิตวิทยาเชิงวิวัฒนาการในหลากหลายมิติ
เนื้อหาของ Dr. David Buss มีความละเอียดและลึกซึ้งมาก ทั้งยังอ้างอิงจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่ง การทำความเข้าใจกลไกเหล่านี้จะช่วยให้เรามองเห็นความสัมพันธ์ของมนุษย์ในมุมมองใหม่และเข้าใจพฤติกรรมต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
ดูคลิปเต็มด้านบนเพื่อเจาะลึกข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรวจบทความเชิงลึกอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ